主页
/ 健康文献 / 疾病和治疗 /
"重拾活力" 恢复活动范围,全力以赴进行髋关节和膝关节置换手术 - 不再疼痛,不再担心

在24小时内恢复行走能力的全膝关节置换手术

如果您在行走、上楼梯、起身和坐下时感到膝盖严重疼痛,或者有膝盖畸形或慢性膝盖炎症,而抗炎药物和注射治疗无效,这可能表明您患有膝关节骨关节炎。在这种情况下,您可能是进行全膝关节置换手术的合适候选人。 除了年龄的增长,膝关节骨关节炎的其他风险因素还包括遗传、性别和创伤史。尽管目前尚无治愈膝关节骨关节炎的方法,但改变生活方式可以减缓疾病的进展。膝关节骨关节炎往往会严重影响日常活动和生活质量。然而,许多人害怕接受膝关节手术。一些人不知道全膝关节置换手术是让患者迅速恢复正常活动的最有效方法之一。


联系我们


全膝关节置换手术

 全膝关节置换手术似乎令人恐惧,因为一些患者对治愈性和术后正常行走存在疑虑。为了消除这种焦虑,曼谷国际医院的髋关节和膝关节中心推出了一种结合了射频磨削和新型神经阻滞技术腔内加压迫阻滞的疼痛干预技术的全膝关节置换手术,手术效果是无痛或较少疼痛、较少肌肉损伤和更快的康复,术后24小时内就能行走。

 为了消除患者对不可治愈性的疑虑,曼谷国际医院的髋关节和膝关节中心使用数字模板计算机程序进行手术规划。该程序允许外科医生根据每个患者的需要定制假体的大小和位置。这反过来减少了对周围区域的创伤性损伤,并延长了植入物的使用寿命。

曼谷国际医院的髋关节和膝关节中心通过快速康复和恢复复计划消除了患者对术后无法行走的担忧。患者通常可以在手术后的24小时内开始行走,并恢复完全的肌肉功能。接受全膝关节置换手术的患者中,近乎100%的人经历了最少的疼痛,并能在1.5-3个月内恢复日常活动。 

查看医生履历


全膝关节置换手术的主要优势

  • 优质假体
  • 最小疼痛
  • 更少并发症,无需担忧
  • 更快康复 – 术后24小时行走*
* 结果因个体而异

采用先进技术进行全髋关节置换手术-直接前路(DAA)

髋关节骨关节炎通常发生在40岁以上的人群中。髋关节的遗传异常、全身性红斑狼疮(SLE)的自身免疫性疾病、肾脏疾病、类风湿性关节炎或长期使用类固醇是主要的诱因。在晚期,患者通常会出现慢性髋部疼痛,可能会放射到腿部,止痛药可能不再有效。患者移动或爬楼梯时,髋部疼痛通常会加剧。如果疼痛加剧,可能会影响夜间睡眠,导致活动受限和生活质量下降。 

过去,患者经常避免传统的髋关节置换手术,该手术涉及在髋部侧面(外侧途径)或髋部背面(后路途径)进行大切口(6-8英寸长)。这两种技术都需要将髋部的肌肉和肌腱从髋部分离开来替换受损的关节。这些肌肉的分离可能会导致手术后疼痛加剧,并且需要数月甚至数年才能完全康复。手术后这些肌肉未能正确愈合可能会增加髋关节脱位的风险,这是髋关节置换失败的主要原因。不良的术后结果还包括腿长不等导致姿势不良和其他并发症的风险。如今,骨科手术中的先进技术可以进行更少侵入性的手术,并获得改善的手术效果和提升患者满意度。


查看医生履历


手术计划数字模板

手术之前,会进行数字模板手术计划,以选择每位患者适合的人工关节大小。人工关节有多种类型,如钴铬或陶瓷,同时,使用新版本的股骨柄来解决长期使用后置换关节下沉的问题。这种计划方法在检查患者腿部长度和髋关节位置时提供了更好的准确性。当患者处于仰卧位时,C臂透视检查可以确保正确放置新的关节,并检查两条腿确保它们长度相等。


最新的髋关节假体

作为亚太地区直接前路髋关节置换的先锋,在曼谷国际医院髋膝中心进行了超过650例手术的专业团队使用最新的髋关节假体(Actis®柄),该假体专门为提供易于植入精心设计,并通过具有领口的改进型植入物稳定性,显著地帮助患者更快地恢复活动能力,增强信心并提高病人满意度


使用最新的非侵入式髋关节导航系统

同时,使用Velys™导航系统,手术医生可以在手术过程中获得有关杯位、腿长和柄位的重要数据,从而提高手术的精确性。该系统有助于减少腿长不一致和与杯位不准确相关的并发症。


拥有BIKINI切口,自信满满

由于手术标记位于比基尼线以下,因此可以自信地穿短裤或泳装。这种方法还降低了疤痕形成的机会,因为切口遵循朗格线,其中真皮层的胶原纤维与肌肉平行,有助于伤口更好地愈合。在手术过程中,医疗团队穿着专业的外科服,以防止任何污染,从而降低了术后感染率。由于导航系统的进步、新一代假体、较少侵入性的手术技术,DAA髋关节置换手术的切口更小,疼痛更少,无需肌肉脱开,失血更少,术后并发症更少,恢复时间更短,移动性更好,髋关节脱位的几率更低。除了外观效果更好外,术后患者无需遵循髋关节注意事项。重拾日常生活,重新追求活力。

 

查看医生履历


การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมด้วยเทคนิคไม่ตัดกล้ามเนื้อ (DAA) และการเปลี่ยนข้อเข่าเทียมด้วยเทคนิคใหม่ ระงับปวด Radiofrequency โดยนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์นำวิถีและข้อเทียมรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ มาช่วยในการผ่าตัดเพื่อหาความเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ร่วมกับเทคนิคการผ่าตัดแบบทะนุถนอมเนื้อเยื่อไม่ให้บอบช้ำ และเทคนิคการระงับปวด ช่วยทำให้ผู้ป่วยเจ็บน้อยและฟื้นตัวไว ช่วยคืนการเคลื่อนไหว ให้ชีวิตฟิตเต็มที่ (Reboot Your Bounce) ดูแลรักษาโรคข้อสะโพกและข้อเข่า ในส่วนของการรักษาข้อสะโพกได้มีการริเริ่มนำเทคนิคการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อมาใช้ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยได้ทำการผ่าตัดผู้ป่วยเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมด้วยเทคนิคนี้ไปแล้วกว่า 500 ราย พบว่า ผู้ป่วยทุกรายสามารถฟื้นตัวได้ไว เดินได้ตั้งแต่วันที่ผ่าตัด มีแผลผ่าตัดขนาดเล็ก มีระดับความเจ็บปวดหลังผ่าตัดที่น้อยมากและประสบผลสำเร็จในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม 2 ข้างพร้อมกันให้แก่ผู้ป่วยไปทั้งหมด 52 ราย ไม่พบว่ามีการหลุดของข้อสะโพกหรือผลแทรกซ้อนที่ต้องมีการผ่าตัดซ้ำแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จในการนำเทคนิคการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อมาใช้ในการผ่าตัดซ่อมแซมและแก้ไขข้อสะโพกเทียมที่เสียหาย สึกหรอจากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมในอดีต (Revision) ให้แก่ผู้ป่วยอีกหลายสิบรายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดแก้ไขข้อสะโพกเทียมสึกหรอ เสื่อมจากการใช้งาน ขายาวไม่เท่ากันหลังผ่าตัด ข้อสะโพกเทียมหลวม หลุด แตกหัก หรือติดเชื้อ เป็นต้น การผ่าตัดข้อสะโพกเทียม เทคโนโลยีในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อในเอเชียแปซิฟิก ศัลยแพทย์จะใช้เทคโนโลยีการผ่าตัดด้วยคอมพิวเตอร์นำวิถีรุ่นใหม่ เรียกว่า JointPoint™ ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้ในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะ เพื่อช่วยระบุตำแหน่งของข้อสะโพกเทียมในขณะผ่าตัดให้ตรงตำแหน่งมากขึ้น เลือกขนาดและวัสดุของข้อเทียมให้เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล และยังสามารถช่วยผ่าตัดให้ผู้ป่วยมีความยาวขาทั้งสองข้างให้เท่ากันหลังผ่าตัดอีกด้วย ซึ่งเทคโนโลยีตัวนี้ไม่จำเป็นต้องเจาะกระดูกของผู้ป่วยเหมือนระบบคอมพิวเตอร์นำวิถีหรือหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดรุ่นอื่น ๆ ในอดีต ทำให้ผู้ป่วยมีการบาดเจ็บที่น้อยลงและฟื้นตัวได้ไวกว่าเดิม นอกจากนี้โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนลยังเป็นผู้ริเริ่มนำข้อสะโพกเทียมรุ่นใหม่ ที่เรียกว่า Actis® Total Hip System ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อมาใช้ ซึ่งตัวข้อเทียมจะมีผิวสัมผัสที่ทำให้กระดูกเข้าไปยึดติดกับข้อสะโพกเทียมได้ดีขึ้นกว่าเดิม มีจะงอย (Collar) ที่ป้องกันไม่ให้ข้อสะโพกเทียมจมหลังผ่าตัด และลดผลแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นในขณะผ่าตัดลงได้ ทำให้การผ่าตัดประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี เทคนิคการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อ โดยปกติแล้วแนวแผลผ่าตัดจะอยู่บริเวณหน้าต้นขา ซึ่งอาจจะเห็นแผลได้ง่าย แต่ด้วยเทคนิคการลงแผลแบบใหม่ จะมีการซ่อนแผลผ่าตัดใต้ต่อขาหนีบหรือที่เรียกว่า BIKINI Incision ซึ่งเป็นการผ่าตัดแบบแผลเล็ก (Minimally Invasive Surgery: MIS) ที่สำคัญการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อ ด้วยเทคนิคซ่อนแผลผ่าตัด แนบเนียน เพราะแผลผ่าตัดขนาดเล็กจะอยู่ด้านหน้าบริเวณขาหนีบ ซ่อนใต้แนวกางเกงใน ทำให้ไม่เห็นรอยแผลเมื่อใส่กางเกงขาสั้นหรือชุดว่ายน้ำ ซึ่งการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมด้วยเทคนิคนี้มีข้อดีกว่าการผ่าตัดแบบดั้งเดิม เช่น ผู้ป่วยมีอาการปวดลดลง ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้ไวขึ้น เดินได้ทันทีหลังการผ่าตัด เนื่องจากไม่มีการตัดกล้ามเนื้อ ศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัดสามารถวางตำแหน่งข้อสะโพกเทียมได้ดีขึ้น อัตราการหลุดของข้อสะโพกเทียมต่ำมาก มีความยาวขาที่เท่ากันหลังผ่าตัด มีขนาดแผลที่เล็ก สวยงาม สามารถซ่อนแผลผ่าตัดใต้ขาหนีบ และยังสามารถทำการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมได้ทั้งสองข้างพร้อมกันอีกด้วย การเปลี่ยนข้อเข่าเทียม การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมด้วยเทคนิคระงับความปวดรูปแบบใหม่ โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบัน Joint Commission International (JCI) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ให้การรับรองมาตรฐานและคุณภาพของโปรแกรมการผ่าตัดข้อเข่าเทียม โดยผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมที่โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนลที่ผ่านมา มากกว่า 500 ราย ทุกรายสามารถเดินได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถงอเข่าได้มากกว่า 90 องศาก่อนกลับบ้าน มีอัตราความพึงพอใจในการรักษาที่สูงมาก (99%) เพราะมีการใช้โปรแกรมการรักษาที่ออกแบบเฉพาะบุคคล (Customize Service) เพื่อตอบสนองคนไข้ที่มีสภาวะต่างกัน เริ่มตั้งแต่ก่อนผ่าตัด นำ Digital Template ช่วยวางแผนหาขนาดของข้อเข่าเทียมที่เหมาะสม รวมทั้งกระดูกที่จะถูกตัดออกว่าจะหนาบาง เล็กใหญ่ขนาดไหน และต้องเอียงทำมุมเท่าใด โดยเฉพาะกรณีที่มีความวิกลรูปผิดปกติมาก หรือกรณีที่เคยมีกระดูกหัก เคยผ่าตัดมาก่อน จะใช้เครื่องเอกซเรย์สองแกน Biplane Imaging (EOS) สแกนตั้งแต่กระดูกสันหลังจนถึงปลายเท้าเพื่อสร้างภาพ 3 มิติออกมาช่วยวางแผนก่อนการผ่าตัด มีการใช้เทคนิคระงับปวดระหว่างการผ่าตัดและช่วงที่อยู่โรงพยาบาล ซึ่งเป็นเทคนิคที่ริเริ่มนำมาใช้ในประเทศไทย เช่น การใช้จี้คลื่นวิทยุความถี่สูงที่เส้นประสาทรอบข้อเข่า (Radiofrequency Ablation) ทำให้ผู้ป่วยแทบจะไม่มีอาการปวดหลังผ่าตัดเลย จึงมีการฟื้นตัวที่รวดเร็วมาก อย่างไรก็ตามผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมไม่ใช่ทุกรายที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด จะเน้นรักษาตามระยะของโรค ถ้ายังสามารถใช้เข่าในสภาวะเข่าเสื่อมที่ยังไม่รุนแรงได้จะแนะนำให้เปลี่ยนวิธีการใช้งาน เช่น ห้ามนั่งคุกเข่า หรือนั่งยอง ๆ และควรเลือกเล่นกีฬาที่มีการกระแทกของข้อเข่าน้อย เช่น ว่ายน้ำ เดินเร็ว ขี่จักรยาน เวลานั่งทำงานปรับที่นั่งให้สูงเพื่อให้เข่าได้เหยียดเต็มที่ หากต้องนาน ๆ ควรพักเข่าด้วยการเหยียดเข่าตรงในท่านั่งแล้วนับ 1 - 10 เพื่อให้กล้ามเนื้อหน้าขาแข็งแรงขึ้น ทำประมาณ 20 - 30 ครั้ง ต้องควบคุมน้ำหนัก ถ้าข้อเข่าเสื่อมที่ยังเป็นไม่มากสามารถรักษาด้วยการทานยาตามอาการ และการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงข้อเทียมเพื่อช่วยลดการเสียดสีของข้อเข่า หรือฉีดยาสเตียรอยด์ในปริมาณที่จำกัดได้ แต่ถ้าการรักษาที่ว่ามาทั้งหมดไม่ได้ผลก็ต้องเข้ารับการผ่าตัด เทคนิคการระงับปวดแบบใหม่ ความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่คนไข้กังวล โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนลได้นำเทคนิคการระงับความเจ็บปวดหลากหลายชนิดเข้ามาใช้ในผู้ป่วยหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาหลากหลายกลุ่มร่วมกัน มีการบริหารยาลดความเจ็บปวดโดยการบล็อกหลังตามทั่วไป ร่วมกับการให้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะส่วนที่จำเพาะเจาะจงกับหัวเข่า โดยการใส่สายเพื่อให้ยาชาในช่องแอดดั๊กเตอร์ที่บริเวณต้นขา เพื่อลดระดับความปวด โดยจะให้ยาชาเข้าไปที่เส้นประสาทที่เลี้ยงข้อเข่าและให้ยาชาต่อเนื่องแบบช้า ๆ ซึ่งการให้การระงับความรู้สึกวิธีนี้ ทำให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่กล้ามเนื้อยังทำงานได้ ทำให้ผู้ป่วยสามารถทำกายภาพบำบัดได้เร็วขึ้นอย่างมาก การทำกายภาพบำบัดที่ดีนี้เป็นจุดสำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้การรักษาประสบความสำเร็จ โดยผู้ป่วยสามารถเดินได้ทันที 2 - 3 ชั่วโมงหลังผ่าตัด โดยที่ไม่มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อเหมือนการระงับปวดชนิดอื่น ๆ นอกจากนี้ในผู้ป่วยที่กลัวความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดมาก ๆ เทคนิคการจี้ด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูงที่เส้นประสาทรอบข้อเข่า (Radiofrequency Ablation) สามารถควบคุมความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดได้ดีกว่าและนานกว่าเป็นระยะเวลายาวนานหลายเดือนจนถึงปี หลักการการรักษานี้ทำโดยการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงจี้ที่เส้นประสาทที่รับความรู้สึกเจ็บปวด ทำให้เกิดความร้อนที่เส้นประสาทจนหยุดการทำงานไม่สามารถส่งกระแสความรู้สึกไปยังสมองได้ การรักษาทำโดยการใส่เข็มชนิดพิเศษบริเวณรอบเข่า 3 จุด ร่วมกับ X - Ray และ Ultrasound นำทางเข็ม เพื่อความถูกต้องสูงสุด โดยการรักษาจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งในวิธีการจี้คลื่นวิทยุแบบมาตรฐาน (Conventional Radiofrequency) จะเป็นการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงที่ให้พลังงานความร้อนอยู่ที่ 80 องศาเซลเซียส แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน มีการพัฒนาให้คลื่นพลังงานมีอุณหภูมิลดลงด้วยระบบ Water - Cooled Technology โดยมีอุณหภูมิอยู่ที่ 60 องศาเซลเซียส มีผลให้ประสิทธิในการรักษาภาพสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยมีความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดที่ลดน้อยลงมาก และฟื้นตัวได้ไวมากยิ่งขึ้น การจี้คลื่นวิทยุรอบหัวเข่าสามารถทำได้ในหลายกรณี ทั้งในผู้ป่วยที่มีข้อห้ามในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าแต่มีความเจ็บปวดทรมานที่ีมีต้นเหตุมาจากข้อเข่า หรือผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บเรื้อรังใด ๆ ของข้อเข่าที่ไม่สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดได้ การให้การดูแลความเจ็บปวดสำหรับการผ่าตัดข้อสะโพกปัจจุบันได้ผลดีมาก โดยเฉพาะการทำร่วมกับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อ (DAA) การให้การระงับความรู้สึกแบบต่อเนื่องในช่อง Fascia Ilica ทำให้เส้นประสาทหลาย ๆ เส้นที่ไปเลี้ยงสะโพกไม่ทำงานระหว่างการให้ยา ช่วงหลังการผ่าตัดจน 2 - 3 วัน ผู้ป่วยจะสามารถทำกายภาพบำบัดและพักฟื้นได้อย่างเต็มที่โดยแทบจะไม่ต้องกังวลเรื่องความปวด ศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมให้บริการ แบบ Total Joint Care ให้การดูแลรักษาแบบครบครัน ไม่ได้เน้นการผ่าตัดเปลี่ยนข้อแต่เพียงอย่างเดียว โดยมีนโยบายหลัก คือ การช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติอย่างมีคุณภาพได้ Reboot Your Bounce ด้วยการผสมผสานวิธีการรักษาต่าง ๆ พร้อมด้วยประสบการณ์ทีมแพทย์ประจำและแพทย์ที่ปรึกษา มีความชำนาญในการรักษาโรคข้อเข่าและข้อสะโพกมาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี สามารถให้การรักษาโรคที่มีความรุนแรง ความผิดรูป ความผิดปกติของข้อทุก ๆ รูปแบบ โดยมีจุดเด่นคือ สามารถแก้ไขปัญหาหรือภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นหลังจากการรักษาผ่าตัดข้อสะโพกหรือข้อเข่ามาแล้ว ประกอบกับทีมแพทย์สหสาขาวิชา พยาบาล เจ้าหน้าที่ กายภาพบำบัด (Multidisciplinary Care) ร่วมกันดูแลรักษาเพื่อให้ผู้ป่วยกลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคและการดูแลรักษาแก่ผู้ป่วย ญาติ และแพทย์ ร่วมกันเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วย

新型疼痛干预技术

手术期间和手术后,不充分的术后镇痛可能会影响康复,延长住院时间,并增加并发症的风险,如心肌缺血、心肌梗死、肺功能障碍、麻痹性肠梗阻、尿潴留和血栓栓塞。因此,急性疼痛管理策略至关重要。以往的术后疼痛控制选项包括麻醉药、硬膜外麻醉和脊髓麻醉。

然而,尽管阿片类药物的有效性,但它们也会产生不良副作用,如呕吐、便秘、混乱和呼吸抑制。这导致了当前疼痛管理方案的转变。多模式镇痛方案是一种同时使用多种药物,以较低剂量作用于多个疼痛受体的方案,以减少阿片类药物的副作用。至于膝关节手术,由经过良好培训的麻醉医师在手术结束时进行的腹股沟管阻滞是目前的疼痛控制的黄金标准。在该过程中,通过超声引导技术,将导管插入到大腿中段,目的是麻醉膝盖处的隐神经。

腹股沟管阻滞结合多模式疼痛方案,如抗炎药和非阿片类药物,可以限制阿片类药物的使用,从而减少其不良副作用。通过这种干预技术,我们可以确保患者不会忍受严重疼痛,并且在手术后23小时内就能行走。该技术的主要优点是保留肌肉力量,以促进膝关节手术后的康复和锻炼计划,从而快速恢复正常生活。另一种疼痛干预技术是射频神经消融。这种微创手术使用常规或冷却射频技术来减少或消除慢性疼痛症状。对于那些患有严重关节炎但不适合关节置换手术的患者、希望推迟手术的患者以及不适合进行大型手术的患者,这种方法通常被认为是一种有效的选择。

在该过程中,通过X射线和超声引导,将特殊的射频针置于负责膝盖或髋部疼痛的神经上。将针尖放置在特定区域后,开始射频,并使神经加热至一定程度。消融的神经将在46个月至2年的时间内停止功能,因此疼痛会得到改善。由于精确的针尖放置技术,此技术的副作用相当罕见。

与其他技术相比,冷却射频利用水冷技术安全地消融传递疼痛信号的神经,使用较低温度(45-60°C)。这样可以减少对周围组织的损伤,并促进更快的康复,使患者可以无忧无虑地回归正常生活。

联系我们


.

参考文献:

Phonthakorn Panichkul 医生

曼谷国际医院髋关节和膝关节中心的关节重建和关节置换外科医生 


Sarit Hongvilai 医生

关节置换术,创伤和骨科手术,髋关节和膝关节中心 曼谷国际医院 


Marvin Thepsoparn 医生

疼痛干预专家和麻醉师 曼谷医院