หลอดเลือดสมองโป่งพองเป็นโรคที่พบได้บ่อย มักไม่มีสัญญาณเตือน กว่าจะรู้ตัวอีกทีอาการก็มักรุนแรงจนตั้งตัวไม่ทัน สิ่งสำคัญคือต้องรีบรักษาให้เร็วที่สุดก่อนสายเกินไป เพราะอันตรายร้ายแรงถึงขั้นอัมพฤกษ์ อัมพาต และเสียชีวิต
หลอดเลือดสมองโป่งพองคืออะไร
หลอดเลือดสมองโป่งพอง (Cerebral Aneurysm) คือ ภาวะที่ผนังหลอดเลือดแดงในสมองเสื่อมลง ส่งผลให้ผนังหลอดเลือดแดงในบริเวณนั้นบางลง หากมีแรงดันจากการไหลเวียนเลือดในส่วนนั้น ผนังหลอดเลือดจะเกิดการโป่งพอง เมื่อขนาดใหญ่ขึ้น ๆ จากการรับแรงดันในหลอดเลือดจะนำไปสู่การแตกและเลือดออกบริเวณชั้นใต้เยื่อหุ้มสมอง หากมีอาการแตกของเส้นเลือด ผู้ป่วยประมาณครึ่งหนึ่งมีโอกาสเสียชีวิตเมื่อมีอาการ และผู้ป่วยที่เหลือจะต้องทำการวินิจฉัยให้ได้อย่างรวดเร็ว หากปล่อยไว้ไม่รีบรักษาโดยเร็วอาจถึงแก่ชีวิต
สาเหตุหลอดเลือดสมองโป่งพอง
- กรรมพันธุ์หรือประวัติในครอบครัว
- ความเสื่อมของหลอดเลือดตามวัย
- ความดันโลหิตสูง
- เบาหวาน
- ประวัติอุบัติเหตุทางสมอง
- สูบบุหรี่ การใช้สารเสพติดบางชนิด
อาการหลอดเลือดสมองโป่งพองเป็นอย่างไร
ความน่ากลัวของหลอดเลือดสมองโป่งพองคือ ในช่วงแรกอาจไม่พบอาการเตือน หรือมีอาการปวดศีรษะที่ไม่จำเพาะเจาะจง จนกระทั่งหลอดเลือดโป่งพองมีขนาดใหญ่ไปกดเบียดเนื้อสมอง อุดหลอดเลือด เส้นเลือดแตก และมีเลือดออกที่ชั้นใต้เยื่อหุ้มสมอง ส่งผลให้มีอาการดังนี้
- หลอดเลือดสมองโป่งพองใหญ่จนไปกดเบียดเนื้อสมองหรือเส้นประสาท อาการกดเบียดขึ้นกับตำแหน่งของเนื้อสมองที่ใกล้เคียงเส้นเลือดนั้นๆ
- ปวดศีรษะข้างเดียว
- หนังตาตก
- เห็นภาพซ้อน
- หลอดเลือดสมองโป่งพองขนาดใหญ่และพบลิ่มเลือดด้านในไปอุดหลอดเลือดสมองส่วนปลาย
- ชา
- แขนขาอ่อนแรง
- ลิ้นแข็ง
- ปากเบี้ยว
- หลอดเลือดสมองโป่งพองจนแตกและเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลางมักเป็นอาการที่นำผู้ป่วยมาพบแพทย์มากที่สุด
- ปวดศีรษะรุนแรงเฉียบพลัน
- ปวดต้นคอเฉียบพลัน
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ชัก หมดสติ
ตรวจวินิจฉัยหลอดเลือดสมองโป่งพองอย่างไร
- ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เพื่อตรวจรายละเอียดความผิดปกติของหลอดเลือดที่ออกในชั้นเยื่อหุ้มสมอง
- ตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (MRI – Magnetic Resonance Imaging) วินิจฉัยความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง หลอดเลือดสมองตีบและแตก
-
- การตรวจหลอดเลือดที่ผิดปกติเพื่อวินิจฉัยเบื้องต้น โดยแพทย์ผู้รักษาจะเป็นผู้พิจารณาจากอาการและอาการแสดงของผู้ป่วย และทำการเลือกวิธีการตรวจอย่างเหมาะสม ได้แก่ CT-Angiogram, MRI-Angiogram และการฉีดสีเส้นเลือด
- การฉีดสีหลอดเลือดในสมอง (Cerebral Angiogram) เป็นการตรวจมาตรฐานในปัจจุบัน ซึ่งสามารถบอกถึงตำแหน่ง ขนาด และรูปร่างของหลอดเลือดแดงที่โป่งพองผิดปกติ ในปัจจุบันการตรวจชนิดนี้สามารถใช้วิเคราะห์ลักษณะกระแสการไหลเวียนที่ผิดปกติของเลือดในหลอดเลือดแดงและสามารถใช้เป็นวิธีหนึ่งในการรักษาหลอดเลือดแดงโป่งพองได้โดยไม่ต้องผ่าตัดสมอง ทั้งนี้ขึ้นกับอาการของผู้ป่วยและตำแหน่งผิดปกติของเส้นเลือดเป็นสำคัญ
การรักษาหลอดเลือดสมองโป่งพอง
การรักษาหลอดเลือดสมองโป่งพองขึ้นกับอาการแสดงของผู้ป่วย
- หากผู้ป่วยตรวจพบหลอดเลือดแดงโป่งพองโดยบังเอิญ สามารถเข้ารับการปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อวางแผนการรักษาตั้งแต่หลอดเลือดที่โป่งยังไม่แตก เพื่อผลการรักษาที่ดีและเพื่อคุณภาพชีวิตให้ดีในระดับเดิม
- หากผู้ป่วยมาโรงพยาบาลด้วยอาการแสดงของเส้นเลือดสมองโป่งพองและแตก ถือเป็นภาวะวิกฤตทางสมอง และจะต้องทำการรักษาโดยเร่งด่วน
- เข้าพักรักษาเป็นผู้ป่วยในหอผู้ป่วยวิกฤตทางสมอง
- ตรวจวินิจฉัยหาตำแหน่งของเส้นเลือดที่โป่งพองและแตกออกเพื่อวางแผนในการรักษา
- การให้การดูแลความเสียหายของสมองซึ่งเกิดจากเลือดที่ออก ทั้งภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองเฉียบพลัน, อาการชัก, อาการสมองขาดเลือดจากเส้นเลือดในสมองหดเกร็งตามหลังการเลือดออก และภาวะไม่รู้สึกตัว ซึ่งสามารถนำมาถึงอันตรายถึงชีวิตของผู้ป่วยได้
รักษาหลอดเลือดสมองโป่งพองอย่างไร
วิธีการรักษาหลอดเลือดสมองโป่งพองขึ้นอยู่กับตำแหน่งของการโป่งพอง อาการแสดงของผู้ป่วย อายุ ปริมาณเลือดที่ออกในสมอง ความแข็งแรงของผู้ป่วย และโรคร่วมของผู้ป่วย การรักษาในปัจจุบัน มี 2 วิธี
- การผ่าตัดหนีบหลอดเลือดสมองโป่งพอง (Clipping Aneurysm) ทีมประสาทศัลยแพทย์จะเป็นผู้ผ่าตัดเพื่อทำการหนีบบริเวณหลอดเลือดสมองโป่งพอง โดยความยากง่ายจะขึ้นอยู่กับขนาด รูปร่าง ตำแหน่ง และความกว้างฐานหลอดเลือดสมองโป่งพอง การรักษาด้วยวิธีนี้สามารถนำเลือดที่ออกในสมองออกและสามารถระบายน้ำที่คั่งในโพรงสมองไปในเวลาเดียวกัน รวมถึงการใช้เครื่องมือเฉพาะหนีบบริเวณของหลอดเลือดที่ผิดปกติ สามารถลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ
- รังสีร่วมรักษา (Endovascular treatment) แพทย์เฉพาะทางรังสีร่วมรักษาทางสมอง จะฉีดสารรังสีทึบแสงเพื่อเอกซเรย์ ก่อนจะทำการอุดหลอดเลือดโป่งพองด้วยขดลวด (Endovascular Coiling) โดยใส่สายสวนหลอดเลือดผ่านหลอดเลือดที่ขาหนีบ จากนั้นเมื่อระบุตำแหน่งหลอดเลือดสมองโป่งพองได้แล้ว แพทย์จะทำการใส่ขดลวด (Platinum Coil) ผ่านทางสายสวนหลอดเลือด เพื่อกระตุ้นให้เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดสมองที่โป่งพองเพื่ออุดไว้
ป้องกันหลอดเลือดสมองโป่งพอง
- เลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม
- ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- งดสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ใช้สารเสพติด
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
- หากมีโรคประจำตัวให้รับประทานยาและพบแพทย์ตามนัดหมายเสมอ
แพทย์ที่ชำนาญการรักษาโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง
- นพ. ยอดรัก ประเสริฐ ศัลยแพทย์ระบบประสาท โรงพยาบาลเพื่อกระดูกและสมอง
- นพ.นันทศักดิ์ ทิศาวิภาต ศัลยแพทย์ระบบประสาท โรงพยาบาลเพื่อกระดูกและสมอง
- นพ.สิรรุจน์ สกุลณะมรรคา ศัลยแพทย์ระบบประสาท โรงพยาบาลเพื่อกระดูกและสมอง
- นพ.ปฤณัต อิทธิเมธินทร์ ศัลยแพทย์ระบบประสาท โรงพยาบาลเพื่อกระดูกและสมอง
โรงพยาบาลที่ชำนาญด้านการรักษาโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง
โรงพยาบาลเพื่อกระดูกและสมองมีความพร้อมให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองในทุกภาวะวิกฤติ ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มากด้วยประสบการณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อคืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้กลับมาอีกครั้ง