เมื่อพูดถึงกระดูกสันหลังคดหลายคนอาจมองว่าไกลตัว ทั้งที่คนไทยเป็นโรคนี้กันมาก 2 – 3% ของประชากรทั้งหมด โดยพบได้ตั้งแต่วัยเด็กถึงผู้ใหญ่ แต่ที่พบมากที่สุดคือช่วงวัยรุ่น เนื่องจากกระดูกมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ที่น่าสนใจคือ โรคกระดูกสันหลังคดส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นแบบไม่มีสาเหตุ ต้องอาศัยการสังเกต ตรวจคัดกรอง และเข้ารับการรักษาโดยเร็ว เพื่อให้กลับมาเคลื่อนไหวได้ใกล้เคียงปกติและมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม
กระดูกสันหลังคดคืออะไร
กระดูกสันหลังคด (Scoliosis) คือ การผิดรูปของแนวกระดูกสันหลังจากปกติที่โค้งงอไปด้านหน้าและหลังเล็กน้อย กลายเป็นโค้งงอ คดงอ บิดเบี้ยวไปทางด้านข้าง ส่งผลให้ไหล่ เอว สะโพกไม่เท่ากัน มีลักษณะคล้ายตัว “C” หรือตัว “S” ทำให้ร่างกายเสียสมดุลการทรงตัวส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิต
กระดูกสันหลังคดเกิดจากอะไร
กระดูกสันหลังคดเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุได้แก่
- โรคกระดูกสันหลังคดตั้งแต่แรกเกิด (Congenital Scoliosis) เนื่องจากขณะแม่ตั้งครรภ์ตัวอ่อนในครรภ์มีกระดูกสันหลังที่ผิดปกติ
- โรคกระดูกสันหลังคดจากโรคทางระบบประสาทหรือระบบกล้ามเนื้อผิดปกติ (Neuromuscular Scoliosis) เช่น โรคกล้ามเนื้อโตมากกว่าปกติ กล้ามเนื้อกระดูกสันหลังฝ่อลีบ เป็นต้น
- โรคกระดูกสันหลังคดแบบไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic Scoliosis) มักเกิดจากการมีความยาวของเข่าไม่เท่ากัน คือ ขาข้างหนึ่งสั้นกว่าอีกข้างหนึ่ง โดยสามารถเกิดขึ้นได้ในวัยต่าง ๆ ได้แก่
- โรคกระดูกสันหลังคดแบบไม่ทราบสาเหตุในวัยทารก (Infantile Idiopathic Scoliosis) ก่อนอายุ 3 ปี
- โรคกระดูกสันหลังคดแบบไม่ทราบสาเหตุในวัยเด็ก (Juvenile Idiopathic Scoliosis) อายุระหว่าง 4 – 10 ปี
- รคกระดูกสันหลังคดแบบไม่ทราบสาเหตุในวัยรุ่น (Adolescent Idiopathic Scoliosis) อายุระหว่าง 10 – 182a ปี พบมากที่สุด
- โรคกระดูกสันหลังคดจากท่าทางที่ผิด (Functional Scoliosis) เกิดจากความผิดปกติตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ขาสั้นยาวไม่เท่ากัน กล้ามเนื้อหดเกร็ง การบาดเจ็บ
- โรคกระดูกสันหลังคดจากความเสื่อม (Degenerative Lumbar Scoliosis) มักพบในผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ จากการเปลี่ยนแปลงของกระดูกสันหลังที่ใช้งานเป็นเวลานาน
กระดูกสันหลังคดสังเกตได้อย่างไร
อาการและความรุนแรงของกระดูกสันหลังคดแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลสามารถสังเกตได้เบื้องต้นดังนี้
- ไหล่ทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
- แผ่นหลังหรือหน้าอกนูนไม่เท่ากัน
- มองเห็นกระดูกสันหลังคดงอชัดเจน
- ลำตัวเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
- สะโพกสองข้างไม่เท่ากัน
นอกจากนี้อาจมีอาการปวดหลังปวดท้องเจ็บซี่โครงกล้ามเนื้อหดตัวเป็นต้นแต่หากอาการรุนแรงจะส่งผลต่อการทำงานของหัวใจและปอดทำงานได้ไม่เต็มที่เหนื่อยง่ายเจ็บหน้าอกหายใจติดขัด
ปัจจัยเสี่ยงกระดูกสันหลังคดคืออะไร
- อายุ ความผิดปกติของร่างกายที่เป็นสัญญาณและอาการของโรคมักเกิดขึ้นในช่วงเด็กและวัยรุ่น
- เพศ เกิดขึ้นในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และเพศหญิงมีอาการรุนแรงกว่าเพศชาย
- พันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีประวัติกระดูกสันหลังคด สมาชิกในครอบครัวย่อมมีโอกาสเกิดกระดูกสันหลังคดได้เช่นกัน
ตรวจวินิจฉัยกระดูกสันหลังคดอย่างไร
เมื่อสงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดกระดูกสันหลังคดควรพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยได้แก่
- ซักประวัติ อาการ ความเจ็บปวด ปัญหาทางการแพทย์
- ตรวจกระดูกสันหลังจากด้านข้าง ด้านหน้า และด้านหลัง โดยแพทย์อาจให้ผู้ป่วยก้มตัวแตะนิ้วเท้า เพื่อมองดูแนวกระดูกสันหลัง ความนูน ความคดงอ และสมมาตรของร่างกาย
- ตรวจดูระดับสะโพกและหัวไหล่ ความเอียงของร่างกาย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
- เอกซเรย์ดูความผิดปกติของกระดูกสันหลัง
- ตรวจ MRI หากแพทย์สงสัยความผิดปกติอื่น ๆ
ภาวะแทรกซ้อนเมื่อกระดูกสันหลังคด
- ปอดและหัวใจ กระดูกซี่โครงกดทับปอดและหัวใจเมื่อกระดูกสันหลังคดรุนแรง หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย
- หลัง กระดูกสันหลังคดแต่เด็กอาจมีปัญหาปวดหลังเรื้อรัง
- บุคลิกภาพ สะโพกหรือหัวไหล่สองข้างไม่เท่ากัน ลำตัวเอียง ซี่โครงหรือหน้าอกยื่นมาด้านหน้า
แนวทางการรักษากระดูกสันหลังคด
วิธีรักษากระดูกสันหลังคดมีหลายวิธีด้วยกันได้แก่
● รักษาโดยไม่ผ่าตัด ในกรณีที่กระดูกสันหลังคดไม่มากประมาณ 10 – 30 องศา แพทย์จะแนะนำให้ทำกายภาพบำบัด ออกกำลังกายที่เหมาะสม รวมทั้งการใส่เสื้อเกราะดัดหลัง (Brace) ในผู้ป่วยที่ยังมีการเจริญเติบโตของกระดูกโดยฉพาะในเด็กและวัยรุ่น เพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกคดงอมากขึ้น ซึ่งเสื้อเกราะดัดหลังจะรับกับส่วนโค้งเว้าของร่างกายผู้ป่วยทั้งบริเวณแขน ซี่โครง หลัง สะโพก โดยสามารถใส่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งวัน และจะใช้ได้จนถึงช่วงที่กระดูกหยุดการเจริญเติบโต นั่นคือ ส่วนสูงคงที่ หลังประจำเดือนมาเป็นเวลา 2 ปี มีขนขึ้นตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งผู้ป่วยควรทำตามคำแนะนำของแพทย์เฉพาะทางอย่างเคร่งครัด
● รักษาโดยการผ่าตัด เมื่อผู้ป่วยมีอาการกระดูกสันหลังคดรุนแรงมากกว่า 60 องศาและทำการรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น แพทย์อาจใช้การผ่าตัดเชื่อมกระดูกสันหลัง (Spinal Fusion) โดยแพทย์จะยึดโลหะชิ้นเล็ก ๆ เข้ากับแนวกระดูกสันหลัง โดยใช้วัสดุตรึงกระดูกไว้ด้วยกัน ในเด็กที่อายุน้อยมาก ๆ แพทย์จะยึดโลหะที่สามารถปรับยืดความยาวของโลหะได้ทุก ๆ 6 เดือน ตามการเติบโตและคดงอของกระดูก เมื่อเด็กโตที่ก็จะทำการผ่าตัดจัดแนวกระดูกสันหลัง โดยใส่สกรูยึดกระดูกสันหลังในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น สร้างสมดุลให้ร่างกายกลับไปใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ
เด็กกระดูกสันหลังคดรักษาอย่างไร
สำหรับเด็กที่กระดูกสันหลังคดควรรีบพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อทำการรักษาทันทีนอกจากช่วยชะลอความรุนแรงที่เกิดขึ้นยังช่วยป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นในทุกช่วงวัย